Allen Ginsberg : บุปผาที่ยังเบ่งบาน

เบื้องหลังของความเป็นจริง

บนลานริมทางรถไฟที่เมืองซานโฮเซ่
ฉันเดินย่างไปอย่างเดียวดาย
ตรงข้ามโรงงานสร้างรถถัง
และหย่อนกายนั่งลงบนม้านั่ง
ใกล้ที่พักพนักงานสับรางรถไฟ 

ดอกไม้หนึ่งทอดตัวบนหญ้าแห้ง
บนทางหลวงลาดยางมะตอย
–ดอกไม้ เจ้าคงหวาดผวา
ฉันคิด–ก้านดอกสีดำดูเปราะบาง
และกลีบในสีเหลืองมอซอ
คราบสีเหลืองดั่งมงกุฎเหนือเศียร
องค์พระเยซู และเปรอะเปื้อน
เหมือนก้อนสำลีแห้งกรัง
ที่ใช้เช็ดหลังโกนหนวด
ซึ่งทิ้งอยู่ในโรงรถมาแรมปี

เหลือง ดอกไม้สีเหลือง และ
ดอกไม้แห่งอุตสาหกรรม
ดอกอุบาทว์ กลีบกระด้างแหลมคม
ถึงอย่างนั้นดอกไม้
รูปทรงนั้นเป็นกุหลาบเหลืองมโหฬาร
เบ่งบานในพื้นที่สมองคุณ
นี่แหละ ดอกไม้ของโลก

ซานโฮเซ่ 1954

ซะการีย์ยา อมตยา แปล
จาก In Back of the Real
ของ Allen Ginsbirg

 

อัลเลน กินสเบิร์ก (Allen Ginsbirg,1929-1997) กวีร่วมสมัยผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบัน เกิดเมื่อปี 1926 ที่นิววาร์ค มลรัฐนิวเจอร์ซี ปี 1948 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และที่นั่นเขาเริ่มเขียนบทกวี กินสเบิร์กเคยทำงานหลายอาชีพ เช่น พนักงานโกดังสินค้าเรือ ช่างเชื่อม คนล้างจ้าง กระทั่งยามเฝ้าประตู 

ที่ซานฟรานซิสโกกินสเบิร์กและเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ซึ่งในเวลาต่อมาได้กลายเป็นแกนนำกลุ่มวรรณศิลป์ Beat (เป็นกลุ่มวรรณศิลป์ทวนกระแสโด่งดังและมีบทบาทสำคัญทางวรรณศิลป์ในยุค’50 เป็นการรวมตัวกันของกวีและนักเขียนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความสนใจ ความเชื่อ ความสำนึกทางสังคมและวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน ร่วมบุกเบิกสร้างงานวรรณศิลป์ วิพากษ์สังคมที่กำลังเสื่อมสลายด้วยหวังว่ากวีนิพนธ์จะสามารถกระตุ้นสำนึกอเมริกันชนให้กลับมาสู่ชีวิตทางจิตวิญญาณ)

ผลงานกวีนิพนธ์เล่มแรกของกินสเบิร์ก Howl (หอน,1955) ฉบับที่พิมพ์ครั้งแรกทั้งหมดถูกทางการจับยึดด้วยข้อหาใช้คำหยาบโลน ภายหลังเสร็จสิ้นคดีฟ้องร้องต่อศาลเทศบาลเมืองซานฟรานซิสโก ผลงานดังกล่าวจึงได้วางจำหน่ายอีกครั้ง และถือเป็นปฐมถ้อยแถลงการณ์ Manefestation ของกลุ่ม Beat ต่อแวดวงกวีนิพนธ์อเมริกัน และกลายเป็นกวีนิพนธ์ที่มีการอ่านอย่างแพร่หลายที่สุดในรอบศตวรรษ มีการแปลมากกว่า 22 ภาษา 

กินสเบิร์กมีบทบาทสำคัญในการทำให้กวีนิพนธ์ขัดกับขนบดั้งเดิมทั้งในด้านเนื้อหาและรูปแบบการใช้คำ ตลอดจนการนำเสนอจินตภาพ ผลงานของเขากลายเป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้นในกลุ่มนักอ่าน เนื้อหาว่าด้วยการต่อต้านสังคม การเมือง การวิพากษ์วิจารณ์โครงสร้างและกฎเกณฑ์ของสังคมและการเมืองอย่างรุนแรง ขณะสงครามเวียดนามกำลังคุกรุ่น เขาเคยถูกจับในฐานะผู้นำการประท้วงต่อต้านนโยบายเข้าร่วมสงครามของรัฐบาลอเมริกัน โดยสนับสนุนการให้อิสรภาพไร้ขอบเขต ทั้งในเรื่องการแต่งกายและความประพฤติ เขาเคยเปลื้องผ้าอ่านกวีนิพนธ์ต่อหน้าสาธารณชน และแม้เขาจะสนับสนุนการใช้ยาเสพติดอย่างเสรีก็ตาม แต่เขานับเป็นกวีคนแรกๆ ที่แสดงความห่วงใยในเรื่องนิเวศวิทยา ดังกล่าวเขายอมรับว่ากวีนิพนธ์บางบทใน Howl ถูกเขียนขึ้น ขณะเขาตกอยู่ใต้อิทธิพลของยาเสพติด 

ระหว่างปี 1960 และ 70 จากการที่กินสเบิร์กสนใจศึกษาทางจิต ภายใต้การอบรมของเหล่ากูรูและปรมาจารย์เซ็น ผลงานของเขาส่วนใหญ่จึงสะท้อนทัศนคติของตะวันออกโดยมองผ่านสามัญสำนึกตะวันตก การถ่ายทอดออกมาด้วยภาษาอเมริกันที่ตรงไปตรงมาและบางครั้งหยาบคายซึ่งดูเหมือนกวีมีจุดประสงค์ที่จะทำให้ผู้อ่านและผู้ฟังตะลึงงัน เขากล่าวว่า เขาใช้ภาษาที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน 

กินสเบิร์กใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในยุโรปและตะวันออกไกล และยึดนิวยอร์กเป็นที่พำนักสุดท้าย ในช่วงปัจฉิมวัย เขาเป็นศาสตราจารย์ผู้มีชื่อเสียงโดดเด่นประจำวิทยาลัยบรู๊คลีน และถึงแก่กรรมที่นิวยอร์ก ซิตี้ เมื่อปี 1997 

ในช่วงชีวิตของกินสเบิร์ก เขาได้รับรางวัลทางวรรณกรรมหลายรางวัล เช่น The Woodbury Poetry Prize, A Guggenheim fellowship, The National Book Award for Poetry, NEA Grants และรางวัลผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตจาก The Before Columbus Foundation งานประพันธ์ของกินสเบิร์กถูกจัดให้อยู่ในระดับเดียวกับงานของมหากวีอย่าง Thoreau, Emerson และ Whitman 

และถูกกล่าวขานในฐานะผลงานที่บรรจุไว้ด้วยขนบความรู้อันเก่าแก่

หมายเหตุ: ผลงาน Howl มีแปลพากย์ไทยโดย จิตติ พัวสนธิ คลิกดูรายละเอียด>> หอนและบทกวีอื่นๆ: อัลเลน กินสเบิร์ก

Gandhi on the street

ศุกร์เย็น ๖ มิถุนายน ๕๑  ผมออกมาเดินเล่นปากซอยริมถนนใหญ่

เห็นชายผู้หนึ่งหลับบนทางเท้า ผมคิดจะเขียนบทกวี ผมลองเขียน

แต่รู้สึกว่าถ้อยคำไม่อาจบรรยายสิ่งที่พบเห็นอยู่เบื้องหน้าได้

จึงใช้ดินสอสเกตซ์เป็นภาพร่างขึ้นมา ให้ชื่อภาพ คานธีข้างถนน

Live Poetry

Live Poetry Vol.3

ภาพบรรยากาศงาน  “ฟังลมหายใจกวี  เมื่อพื้นที่เริ่มหดหาย

สถานที่ : สวนเงินมีมา  ซอยเจริญนคร   ๒๒   เขตคลองสาน 

วันเวลา :   เสาร์ ๙ สิงหาคม  ๕๑ ,  ๑๘.๓๐-๒๓.๐๐

 

Jacky

ฮาเมอร์ ซัลวาลา  http://day4nite.wordpress.com/

Hamer Salwala & Jacky

Ellen Boccuzzi  เชตวัน เตือประโคน 

ศิวดี อักษรนำ http://www.oknation.net/blog/kantorn

เสรี ทัศนศิลป์  http://www.oknation.net/blog/kaveethas

มุหัมหมัดฮาริส กาเหย็ม  http://www.oknation.net/blog/haris

Green poet to save PAI

กฤช เหลือละมัย

อรอาย อุษาสาง  http://www.oknation.net/blog/orneye

บ่าวงู,Hey_Tou, กฤช เหลือละมัย, กฤษณพล ศรีบูรพา, สานิตย์ สีนาค

เชตวัน เตือประโคน

ปิยะชาติ จองทอง

กฤษณพล ศรีบูรพา  http://www.oknation.net/blog/kaweesri

Snake  http://www.oknation.net/blog/snake

Green Poet, Rose Lobster http://www.oknation.net/blog/Memyself

Skinhead http://www.oknation.net/blog/skinhead

Hey_YOU http://www.oknation.net/blog/lov2allyou

วัฒนา ธรรมกูร  http://www.oknation.net/blog/tatuk

สุรชัย สุริยุทธ (ต้น บัวดิน) http://www.oknation.net/blog/tonboudin

Shadow of artistic

Me and my friend [ a musician poet ]

ธาร ธรรมโฆษณ์  http://www.oknation.net/blog/thara

แก้วตา ธัมอิน  http://www.oknation.net/blog/tto-okk

ทวีศักดิ์ พึงรำพู

อาณัติ แสนโท

คาล รีอัล http://www.oknation.net/blog/kalreal

ลัดดา สงกระสินธุ์ http://www.oknation.net/blog/fairy

ธวัชชัย สัสดีทอง  http://www.oknation.net/blog/T-watchai

สุธิดา วงษ์อนันต์

พัลลภ สามสี และ เชตวันเตือประโคน

อาณัติ แสนโท

มัคคุเทศก์ทางวิญญาณ ขับร้องบทกวีเป็นเพลงลูกกรุง+ทุ่ง

รุ่งฤทธิ์ ทรงคัชชะ http://www.oknation.net/blog/katcharit

Skinhead

หนูหนิง   http://www.oknation.net/blog/openning

Hey_YOU

สุริยา โนนน้อย http://www.oknation.net/blog/seekran

I don’t know who? On readind a poem.

ล้อมวงสนทนา

แสดงความคิดเห็น แย้ง ค้าน เสนอแนะ ฯลฯ

มัคคุเทศก์ทางวิญญาณ(เสื้อสีน้ำเงิน)ดำเนินการปิดการชุมนุม และสลายวงพูดคุยกันสบายๆ 

ขอขอบคุณทุกท่าน แล้วพบกันใหม่ ในครั้งต่อไป Vol.4

———————————-

 ดูภาพเพิ่มเติมอีกกล้องหนึ่ง ในบล็อคของมัคคุเทศก์ทางวิญญาณ(ไกด์ผี)

 http://www.oknation.net/blog/guide007/2008/08/11/entry-1

บทเพลงแห่งการปลดปล่อย

artwork by popartuk.com

บทเพลงแห่งการปลดปล่อย

โจรสลัดชรา  ใช่แล้ว พวกมันปล้นข้ามา
แล้วขายข้าให้แก่พ่อค้าเรือเดินสมุทร
ไม่นานหลังจากพวกมันฉุดข้าขึ้นมา
จากหลุมคอกลึกสุด
ทว่ามือของข้ากลับกลายแกร่งกล้า
ด้วยหัตถ์แห่งพระผู้ทรงฤทธานุภาพ
เราจึ่งส่งผ่านถึงคนรุ่นนี้
อย่างผู้มีชัยชนะ
แล้วเธอจะไม่ช่วยกันขับขาน
บทเพลงแห่งอิสรภาพกันดอกฤๅ
เพราะประดาทั้งหลายเท่าที่ข้าเคยมี
เพียง-บทเพลงแห่งการปลดปล่อย
บทเพลงแห่งการปลดปล่อย
เธอจงปลดปล่อยตัวเองจากการเป็นทาสทางจิตใจ
ไม่มีใครนอกจากตัวเราเองที่จักปลดเปลื้องจิตใจเราได้
อย่าได้หวาดหวั่นต่อพลานุภาพแห่งปรมาณูเลย
เพราะหามีผู้ใดจากพวกมันหยุดยั้งกาลเวลาลงได้
แล้วพวกมันจะเข่นฆ่าเหล่าศาสดาของเราอีกนานแค่ไหน
ขณะที่เราได้แต่ยืนมองดูอยู่ข้างข้าง  โอว์
บางคนกล่าวว่ามันเป็นเพียงตอนหนึ่งเท่านั้น
เราจักต้องช่วยกันเติมเต็มพระคัมภีร์ให้สมบูรณ์

ซะการีย์ยา อมตยา แปล
จาก
Redemption song ของ Bob Marley

Across The Universe

ชีวิตของจินตนาการ, หนึ่งท่วงทำนองเพลง

Gu Cheng and his beloved

 

กู้เฉิง (Gu Cheng ๑๙๕๖๑๙๙๓) กวีจีนร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งและเป็นหนึ่งในกวีกลุ่มกวีสลัวเลือน กู้ก้งผู้บิดาเป็นกวีนักการทหาร ด้วยอยู่ท่ามกลางยุคการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ทำให้กวีนิพนธ์ ดวงตาแห่งความมืดผลงานรวมเล่มเล่มแรกตีพิมพ์ก็ล่วงเข้าปี ค..๑๙๘๖ นับตั้งแต่กลางทศวรรษ๑๙๘๐ งานเขียนของเขามีลักษณะการทดลองมากขึ้นและพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ท่วงทำนองเสนาะอันเป็นที่นิยมกันในกวีนิพนธ์จีน รวมทั้งการใช้องค์ประกอบอุปมาอุปมัยเชิงซ้อนแบบในยุคแรกของตน

บทกวีของกู้เฉิงเป็นที่ดึงดูดและชวนหลงใหลจากผู้อ่านทั่วโลก นักวิจารณ์เรียกเขาว่าเป็นผู้มาแจ้งแห่งความทุกข์ยาก และสำหรับชนร่วมรุ่นยุคปฏิวัติวัฒนธรรมบทกวีของเขาได้ถูกวางไว้ในใจ

ชีวิตบั้นปลายของกู้เฉิงอยู่บนเกาะ Waiheke Island ประเทศนิวซีแลนด์ โดยเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Auckland

เดือนตุลาคม ค..๑๙๙๓ กู้เฉิงกระทำอัตวิบาตกรรมด้วยการแขวนคอกับต้นไม้ขณะอายุ ๓๗ ปี ก่อนการปลงชีพตัวเองเขาได้ใช้ขวานฟันศีรษะภรรยา ซึ่งเธอเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล

จากคอลัมน์  บุรุษไปรษณีย์ของกวีหนุ่ม โดย ซะการีย์ยา อมตยา ปาจารยสาร ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๔ มีนาคม-เมษายน ๒๕๕๑ 

 

 

 

 

 

 

 

 

จุดจบของขนมปังแยมสตรอว์เบอร์รี่

The End of Strawberry jam bread

artwork by selektor

จุดจบของขนมปังแยมสตรอว์เบอร์รี่

 

ฟืนเต็มเตาอบจักรวาล

หญ้าเหลืองขาวซีดเริ่มเขียวขจี

ปวงดอกไม้คลี่ออกจากผ้าห่ม

นกหางสีแดงสลัดความเกียจคร้าน

สรรพสิ่งปรากฏเงาบนผืนดิน

ตามถนนหนทางเต็มด้วยผู้คน

ในรองเท้ามีเท้าที่เมื่อยล้า

ในกางเกงมีขาที่อ่อนเพลีย

ในเสื้อมีแผ่นหลังอันบอบช้ำ

ห่างไกลออกไปหลายไมล์

ทะเลกระจกสะท้อนในดวงตา

ตะบองเพชรต้นสูงอวบอิ่ม

หนามแหลมคมราวดาบปลายปืน

สงครามกลางเมืองพักรบชั่วคราว

เลือดแห้งกรังบนถนนถูกชะล้างด้วยหยาดฝน

เหลือแต่ร่องรอยความแค้นเคืองในจิตใจผู้คน

ความตายที่ผลิดอกออกผลกำลังโกรธาในนรก

นักค้าสงครามแสยะยิ้มกับฤดูฆ่าที่กำลังจะเริ่มอีกครา

คลังแสงพร่องตะกั่ว ดินปืน หัวทองแดงและกำมะถัน

ความขัดแย้งระลอกใหม่กำลังถูกจัดวาง

ใครบางคนจะต้องถูกสังหารในวินาทีต่อไป

ใครคนไหนจะเป็นผู้โชคดีคนนั้น

ที่จะได้รับอภิสิทธิ์หนีจากเตาอบได้เป็นคนแรก

เลือดของเขาจะทาสีหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งให้แจ่มจรัส!

 

                                                 ซะการีย์ยา อมตยา

– พิมพ์ครั้งแรก ในเนชั่นสุดสัปดาห์ ๒๑ มิถุนายน ๕๑

 

 

แบน บล็อก และความเขิ่ง

เรื่องของแบน บล็อก และความเขิ่ง
                                                               
โดย Devil Girls

 

 

ไทยบล็อก(block)ยูทิวบ์หลังพบคลิปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รัฐบาลทหารพม่าปิดกั้นการเข้าถึง

blogger.comและจับบล็อกเกอร์คนสำคัญของ NLD เว็บไซต์สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกันถูกปิด  ศาลฝรั่งเศสสั่งแบนเว็บไซด์นักเรียนให้คะแนนครู จีนบล็อกยูทิวบ์เหตุแพร่ภาพประท้วงจีนในทิเบต ญี่ปุ่นเล็งควบคุมเว็บไซด์ข่าวที่มีคนเข้าอ่านมากและมีอิทธิพล    ปากีสถานบล็อกยูทิวบ์อ้างพบคลิปหมิ่นศาสนาอิสลาม  วิศวกรหนุ่มชาวโมร็อคโกถูกตัดสินจำคุก๓ปีหลังเล่นfacebook(คล้ายHi5) เพราะใช้ชื่อพระอนุชาคนสุดท้ายของกษัตริย์เข้าล็อคอิน  บล็อกเกอร์จำนวนมากถูกแบนเว็บบล็อก(weblog)ของตัวเองจากผู้ดูแลระบบ  บราซิล อิหร่าน โมร๊อคโค ซาอุดิอาระเบีย ซีเรีย ไทย ตุรกี  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือรายนามประเทศที่เคยบล็อกและกำลังบล็อกยูทูบว์
 
 

 

ทั้งบล็อกทั้งแบน อุ๊แม่เจ้า !!

           ถ้าอ่านผ่านกรณีข้างต้นมาถึงตรงนี้แล้วยังรู้สึกว่าก็ไม่เป็นอะไรนี่ บล็อกก็บล็อก แบนก็แบน Devil Girls ก็ขอแนะนำให้เปิดไปอ่านหน้าอื่นดีกว่าเจ้าค่ะจะเป็นประโยชน์กว่าเยอะ  แต่สำหรับใครที่ยังอยากรู้ต่อว่าแล้วจะทำยังไงกันดี ทำไมมันเป็นอย่างนี้(วะ) หรือไอ้สิ่งที่เกิดนี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาในพื้นที่แห่งเสรีภาพนี้เสียแล้ว อย่างนั้นคุณก็เปิดถูกหน้าแล้วล่ะ!!  
          พอเกิดปรากฏการณ์ตามบี้ตามแบนกันบ่อยเข้า ก็เกิดคำถามกับโลกเสมือนที่(น่าจะ)เสรีและไร้พรมแดน โลกเสมือนที่ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้และไม่มีอะไรที่จะค้นไม่พบ(เว้นแต่จะหาไม่เป็นเอง) อันเป็นพื้นที่ที่ไม่ควรมีใครเป็นเจ้าของ(แต่ที่ต้องการหรือพยายามจะเป็นน่ะมีเยอะ) การปิด การแบน(
ban) หรือบล็อก(block)จึงไม่ใช่แค่สกัดกั้นไม่ให้เข้าถึงข้อมูลหรือทำลายเสรีภาพในการแสดงความเห็น แต่ยังเป็นการปะทะกับตัวตน กับการแสวงหาตัวตน และอำนาจของปัจเจกชนนับล้านอย่างกรณีแบนเว็บบล็อก(weblog/blog) ที่ทำให้ผู้สร้างบล็อกเข้าใช้งานในบล็อกตนเองไม่ได้ ทั้งยังกระทบกับความสัมพันธ์ของเครือข่ายหรือชุมชนขนาดใหญ่ อย่างการบล็อก(block)เว็บยูทิวบ์หรือเว็บไซต์ยอดนิยมต่างๆ

 

                 มานั่งนึกๆดู การ แบน  ปิด บล็อกที่กระทำต่อวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีลักษณะเหมือนปลาดาวที่สร้างปลาดาวตัวใหม่ได้จากระยางที่หลุดออกไป มากกว่าจะเป็นแมงมุมที่แค่โดนเด็ดหัวก็ซี้แหง  ช่างเป็นการกระทำที่ บูด บิดเบี้ยว และเขิ่ง เอามากๆของผู้มีอำนาจทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นรัฐ เว็บมาสเตอร์หรือผู้ดูแลระบบ ซึ่งน่าจะมีเป้าหมายเพื่อการเชือดไก่ให้ลิงดูมากกว่าต้องการลงโทษผู้กระทำจริงๆ 

 

                มานั่งนึกๆดูก็น่าเห็นใจผู้มีอำนาจพวกนี้อยู่หรอกที่ทำอะไร บูด บิดเบี้ยว และเขิ่งแบบนี้ออกมา ก็คงด้วยความ ไม่ประสา กับโครงสร้าง การทำงาน หรือกลไกของโลกเสมือนที่ขับเคลื่อนไปด้วยพลังที่มองไม่เห็น มีพื้นที่กว้างใหญ่ ทั้งควบคุมจัดการได้ยากกว่าเดิม แถมเต็มไปด้วยช่องทางการกระจายข้อมูล(ที่ประชาชนไม่ควรรู้)อยู่สารพัด เต็มไปด้วยมือสมัครเล่นที่สลายอำนาจผูกขาดและการครอบงำจากผู้เชี่ยวชาญ เป็นพื้นที่ที่ทุกคนมีตัวตนได้และไม่ใช่แค่ผู้ถูกดู     ที่ผ่านมา อำนาจ รัฐ คุ้นเคยแต่กับม๊อบที่วิ่งไล่จับแกนนำได้เป็นตัวๆหรือฝูงชนที่สลายกันให้เห็นๆได้เลย พอมาเจอวัฒนธรรมใหม่เลยได้แต่สร้างดวงตาที่ไร้คุณภาพมาคอยสอดส่องเท่าที่จะมีปัญญา และหากเป็นอำนาจทุน ก็คุ้นเคยกับการเป็น เจ้าข้าวเจ้าของ หรืออภิสิทธิ์ของคนเฉพาะกลุ่ม พอนึกอยากเล่นกับเขาบ้างด้วยการเปิดให้บริการพื้นที่เขียนเว็บบล็อก และด้วยการประกาศว่าทุกคนเป็นนักข่าวได้… พี่แกก็แสดงความเป็นเจ้าของและอาการเห่อของใหม่ออกมาได้เขิ่งเป็นที่สุด ซึ่งแสดงถึงความอ่อนหัด ทั้งไม่เข้าใจโครงสร้างหรือวัฒนธรรมในพื้นที่นี้สักเท่าใดนัก เลยนำวิธีคิด วิธีควบคุมสื่อทีวีหรือหนังสือพิมพ์แบบเก่าๆมาใช้จัดการ  อย่างการแบนเว็บบล็อกที่ขัดต่อความเชื่อของตัวเอง ทั้งยังทิ้งซากไว้ประจานให้ลิงดูอีกต่างหาก ขออภัยครับบล็อกนี้ถูก แบน !!!!!  แต่คงลืมไปว่า ลิงบางตัวก็ไม่กลัวนาน แล้วไก่อีกหลายตัวตายยากกว่าที่คิด

ยิ่งปิดยิ่งปูด


               การได้เข้าไปในพื้นที่ ต้องห้าม ได้เป็นเรื่องท้าทายพลเมืองในโลกไซเบอร์เป็นที่สุด เพราะมันเป็นแบบหนึ่งของการแสดงตัวตนและความเจ๋งให้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อเกิดการปิดเว็บไซต์หรือแบนเว็บบล็อกจึงไม่ได้มีแต่คำว่าก็ได้ แต่จะเกิดการกระจาย วิธีการเข้าเว็บไซต์ที่ถูกปิดให้เกลื่อนหน้าจอ   เกิดเว็บบล็อกของ ไก่ที่ถูกเชือดผุดขึ้นมาในพื้นที่บริการอื่นที่มีให้เลือกมากมาย และมีคนเข้าอ่านเยอะกว่า เพื่อตะโกนให้คนอื่นมองเห็นความเขิ่งของพื้นที่เก่า  หรือเกิดกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพในโลกไซเบอร์ขึ้นมาให้เราเห็นเป็นบุญตา เช่น กลุ่มขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด , กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย (FACT) ซึ่งเขียนจดหมายพุ่งตรงไปถึงซีอีโอของกูเกิ้ลทันทีที่มีท่าทีบ้าจี้จะมาช่วยสอนให้รัฐไทยเซ็นเซอร์เฉพาะบางคลิป ในยูทิวบ์ที่เห็นว่ามีปัญหา แทนการปิดทั้งเว็บ(แบบโง่ๆ)อย่างที่ทำอยู่ หรืออย่างมูลนิธิ EFF ในอเมริกา ก็ก่อตั้งมาเพื่อช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในโลกไซเบอร์ และรณรงค์ต่อต้านการออกกฎหมายควบคุมที่ไม่เข้าท่า ต่อต้านการดักฟังโทรศัพท์ การแอบดูข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ต ฯลฯ  EFFยังจัดมอบรางวัล Pioneer Awards เป็นประจำทุกปี โดยให้แก่บุคคล องค์กร หรือเครือข่ายที่มีผลงานใดๆก็ตามที่จะนำไปสู่เสรีภาพในการใช้และเข้าถึงสื่ออินเทอร์เน็ตได้        

                                                                                               

                แล้วเพื่อไม่เห็นเป็นแค่การมาบ่นพร่ำไปวันๆ Devil Girls เลยรวบรวมข้อเสนอมาจากสองไก่ เอ้ย! สองหนุ่มที่เคยโดนแบนบล็อกมาเป็นแนวทางไว้ เผื่อเกิดสึนามิแบบนี้กับคุณเข้าให้บ้าง  ก็ถ้าเกิดอาการล็อกอินไม่ได้ หรือได้แต่เขียนอะไรไม่ได้เลย , เปิดเข้าไปแล้วมีตัวการ์ตูนหน้าประหลาดยกมือไหว้จนรับไหว้แทบไม่ทัน , เนื้อหาบางส่วนหายไป , หน้าบล็อกขาวโพลน ฯลฯ นั่นแหละ สันนิษฐานว่าโดนเข้าให้แล้ว ส่วนเว็บไซต์ที่ถูก       จัดการ จนเข้าไม่ได้ ก็มีวิธีการมาฝากเหมือนกันเจ้าค่ะ ทั้งหมดนี่ก็ด้วยความอยากลองดีและนึกสงสัยครามครันว่า  ใครกันหนอ เป็นผู้ที่จะมีสิทธิตัดสินหรือสมควรตัดสินว่าข้อมูลใดควรได้รับการเผยแพร่หรือควรเป็นความลับ ซึ่งดูเหมือนทุกวันนี้บรรทัดฐานจะอยู่แค่ว่า เป็นสิ่งที่ ไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  หากมาตรวัดของประเทศไทย(และประเทศอื่นๆ) ยังมีอยู่เพียงเท่านี้ Devil Girls ก็ขอให้วัฒนธรรมการ หลบเลี่ยง จงเจริญยิ่งๆขึ้นเถอะ ยะฮู้!!!

 

 

ข้อควรทำเมื่อถูกแบนเว็บบล็อก 

                ๑. รวบรวมสติของคุณให้ดี ปรับจังหวะการหายใจให้เป็นปกติ โปรดจำไว้ว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่โดนแบน ผมก็โดนเหมือนคุณแหละครับ

๒.ถ้าคุณยังสามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบได้อยู่ ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเป็นการแบนประเภทไหน  แบนเป็นบางเนื้อหา  แบนแล้วยังเข้าระบบได้ หรือแบนทั้งหมดทั้งสิ้น ซึ่งก็คือไม่ได้แบนในสิ่งที่คุณเขียน แต่แบนที่ตัวคุณนั่นแหละ (เหมือนที่ผมโดน) ก็สงบสติแล้วแผ่เมตตาให้เขา(ผู้ดูแลระบบ)สักพักก่อนจะเริ่มค้นหาอีเมล์ของเขา แต่โดยมากผู้ดูแลจะต้องเปิดบล็อก ตุ่น ๆ ไว้หนึ่งบล็อกเพื่อติดต่อกับบล็อกเกอร์ทั้งหลาย
                ๓.ถ้าคุณยังล็อกอินได้อยู่แล้วยังสามารถพิมพ์ข้อความแสดงความคิดเห็นในบล็อกอื่น ๆ ได้ด้วย ก็เข้าไปแสดงตนว่าคุณรู้แล้วว่าโดนแบนในบล็อกตุ่นๆของเขานั่นแหละ อาจใช้ถ้อยคำที่จะทำให้ผู้ดูแลระบบประสาทเสียไปสักพัก  

๔. หลังจากนั้นให้เปิดบล็อกใหม่ครับ ถ้าโดนแบนไอพีแอดเดรสด้วย ให้หาโปรแกรมโกงไอพีมาใช้ หรือไม่ก็ใช้เครื่องตามร้านอินเทอร์เน็ต (และควรจะไปไกล ๆ บ้านสักหน่อย เผื่อเขาไล่ตามได้) ถ้าต้องใช้รหัสบัตรประชาชน ให้ใช้รหัสและชื่อนามสกุลของคนที่เป็นมิตรแท้กับคุณ  เมื่อเปิดบล็อกอีกครั้ง(ในพื้นที่เดิม)ได้แล้ว ให้เขียนเนื้อหาที่ เล่นกับผู้ดูแลให้สนุกไปเลย

๕.  หากไม่มีใครให้คุณยืมชื่อนามสกุลรวมทั้งหมายเลขบัตรประชาชน  ให้คุณย้ายไปอยู่ที่บล็อกอื่น ๆ สร้างชุมชนขึ้นมาครับ รวมกลุ่มกันโวยวาย แต่ควรจะเป็นลักษณะสัญลักษณ์ อย่าตรงจนเกินไป อย่าหยาบ (เพราะจะไม่น่าเชื่อถือ) ควรสวมบทบาทของนักประชดประชันผู้มากล้นด้วยสีสันและความรุ่มรวยทางศิลปะ เขียนเป็นภาษาอังกฤษได้ยิ่งดีหรือจ้างนักแปลเสียเลยจะได้ส่งไปทั่วโลก ทำให้ระบบเว็บบล็อกที่เก่า(ที่แบนคุณ)กลายเป็นดีสนีย์แลนด์ของเหล่าบรรดาผู้ที่โดนแบน  โดยอย่าลืมส่งลิ้งค์เป็นสาส์นเชิญไปให้ผู้ดูแลระบบของคุณเข้ามาอ่านด้วย

๖. แล้วหากมีผู้ใช้งานซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเว็บบล็อกแห่งใหม่ของคุณ ในทำนองเข้าข้างที่เก่าของคุณล่ะก็ เตรียมตัวดีใจได้เลยเพราะแสดงว่าเป้าหมายของคุณที่ชักจะเหลืออดแล้วล่ะ ครั้นจะเข้ามาอย่างโจ่งแจ้งก็กระไรอยู่ เลยปลอมตัวเข้ามาอย่างเหนียม ๆ

๗. ถ้าได้ผลแบบข้อ ๖. ก็ถือโอกาสนี้ใช้คำประเภท ผมเตือนคุณแล้ว บอกเขาไป และพูดถึงเสรีภาพในการพูดและการเขียนให้มาก ๆ พูดถึงเรื่องสิทธิในการแสดงออกต่าง ๆ  

                อ้อ… โดยทั้งนี้ คุณต้องมั่นใจเสียก่อนว่า เขาไม่ได้แบนเพราะคุณทำตัวห่วย ๆ เองนะครับ…

ไมค์ เอช

 

                 .   ตรวจสอบการใช้งานของคุณว่าผิดกฏกติกาข้อไหนของบล็อกดังกล่าวหรือไม่ หากพบว่าคุณไม่ได้ทำผิดใดๆ ให้นึกทบทวนว่าได้กระทำอะไรบ้างที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือทำให้ผู้ดูแลไม่ชอบขี้หน้าคุณหรือเปล่า อย่างเช่นไปวิจารณ์การทำงานอันไม่เป็นสัปปะรดของเขา (อย่าลืมว่าบางครั้งเว็บมาสเตอร์งี่เง่าก็มักใช้อำนาจในทางมิชอบอยู่บ่อยครั้ง )

            .       เปิดบล็อกแห่งใหม่ทันทีที่บล็อกของคุณถูกสั่งปิด ขอแนะนำให้เป็นบล็อกที่เปิดให้บริการ

ในต่างประเทศ เช่น http://www.blogger.com หรือ http://www.wordpress.com  จะได้ใช้บล็อกแห่งใหม่เป็นกระบอกเสียงของคุณได้ในทันที ทั้งสองบล็อกที่แนะนำสมัครได้ไม่ยุ่งยากภายในไม่กี่นาทีและมีฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นภาษาไทยแล้ว ค่อยๆเรียนรู้การใช้งานไป ซึ่งไม่ยากกว่าความสามารถของคุณแน่นอน
            .     โพสเรื่องราวความเป็นมากรณีที่บล็อกของคุณถูกแบน พร้อมกับลงข้อความเดียวกันตามเว็บบอร์ดต่างๆที่คุณคิดว่ายังมีผู้คนที่รักความยุติธรรม อย่างน้อยเรื่องการแบนอย่างขาดจริยธรรมจะได้ไม่ถูกเก็บเงียบ  มันสำคัญตรงที่เป็นการแสดงเจตนารมณ์ว่า คุณไม่ได้ยอมให้ความอยุติธรรมดำรงอยู่อย่างสง่าผ่าเผยต่อไป  นอกจากนี้คุณต้องพยายามแนะนำให้เพื่อนๆ อ่าน และช่วยกันส่งต่อไป ให้ได้รับรู้ในวงกว้าง

ปุถุชน

 

 

**ไมค์ เอช และ ปุถุชน (และอีกหลายคน) ถูกแบนเว็บบล็อกตัวเอง ซึ่งเปิดให้บริการโดยบริษัทสื่อใหญ่แห่งหนึ่ง โดยสันนิษฐานว่ามีเหตุมาจากการที่นำบทความ “Your Blog Is Banned By Me, Your Second Big Brother ของบล็อกเกอร์คนหนึ่ง ที่เขียนวิจารณ์การทำงานของผู้ให้บริการนั้นๆ มาลงเผยแพร่ในบล็อกของตน  ในกรณีของปุถุชน เริ่มจากการจัดรูปแบบบล็อกที่ทำให้พื้นที่โฆษณาเหลือน้อยจนถูกตักเตือนจากผู้ดูแล แต่ก็ยิ่งทำให้นึกสนุก เลยท้าท้ายต่อเนื่องด้วยการเขียนบทกวีเสียดสี ฮิตเลอร์หวัดดีพวก!!!” แล้วนำออกเผยแพร่ในอีกเว็บบล็อกหนึ่ง รวมทั้งตั้งกระทู้ถึงการทำงานและบรรทัดฐานของผู้ดูแลระบบ ซึ่งมีผู้เข้าอ่านและแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แต่ในที่สุดก็ทำให้ ที่เก่า ถูกแบนอย่างสมบูรณ์ตลอดกาลนาน ปัจจุบันปุถุชนได้อำลาไปสร้างสาธารณรัฐกวีนิพนธ์ยัง  wordpress.com  อย่างไม่ลืมจะสร้างอนุสรณ์รำลึกให้กับ เสรีภาพของสื่อและเว็บมาสเตอร์แสนเขิ่ง ผู้นั้น (ตามอ่านกรณีเซ็นเซอร์แบนบล็อกด้วยวิจารณญาณของคุณเอง ได้ที่         อ่านกรณีเซ็นเซอร์และแบนบล็อกต่อได้ที่   www.iteau.wordpress.com/2008/01/11/blogcensorshipthai/ และ  www.putushon.wordpress.com

 

  


ถึงปิดก็จะเข้า

                วิธีเข้าเว็บไซต์ที่ถูกปิดมีหลายช่องทาง เรียกกันว่าเทคโนโลยีหลบเลี่ยง  แต่ขอเก็บมาฝากพอหอมปากหอมคอก่อนแล้วกัน ซึ่งใครจะเลือกใช้แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น   ความเร็วอินเทอร์เน็ต  ความเข้าใจทางเทคนิค ทักษะ  มีคนรู้จักที่ไว้ใจได้อยู่ในประเทศที่ไม่ถูกปิดกั้น ความสำคัญของข้อมูล ฯลฯ

 

พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ (proxy server)

                เป็นตัวกลางในการเก็บข้อมูล โดยดึงข้อมูลจากที่ต่างๆมาอยู่ในนี้เพื่อการเรียกใช้ได้ง่ายและเร็ว ด้วยการทำงานแบบตัวกลางทำให้สามารถเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรากับเว็บไซต์ปลายทาง(ที่ถูกปิด)ได้โดยปกปิดต้นทางที่แท้จริง ไอพีที่ปรากฏจะเป็นของเครื่องพร็อกซี่  แต่การเข้าเว็บไซต์ที่ถูกปิดจะต้องเป็นไอพีของพร็อกซี่ในต่างประเทศด้วย    เราสามารถหาพร็อกซี่เซอร์เวอร์ที่มีไอพีต่างประเทศด้วยการค้นคำว่า unblock proxy ในกูเกิ้ล ซึ่งก็จะปรากฏเว็บไซต์นี้ขึ้นมาราว ๑,๗๕๐,๐๐๐ ลิงค์ !!! แล้วก็เพียงแค่พิมพ์ URL ของเว็บไซต์ที่ถูกปิดลงไปเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีกรรม   นี่เป็นวิธีอย่างง่ายที่สุด  เหมาะกับการดูข้อมูลที่ไม่สำคัญมาก ใช้ในสถานการณ์ความเสี่ยงต่ำ แต่อาจไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ที่ต้องล็อคอินก่อนได้ แล้วด้วยความง่ายก็ทำให้ผู้กรองข้อมูลค้นเจอง่ายเหมือนกันแล้วก็จะจัดการปิดมันซะด้วยเลย หลักการซ่อนต้นทางแบบพร็อกซี่นี้เป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีหลบเลี่ยงทั้งหมด

 

ซอฟแวร์หลีกเลี่ยง
                 เป็นโปรแกรมสำหรับเข้าเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก(block)
  ซึ่งวิธีการคือนำโปรแกรมประเภทนี้มาลงในคอมพิวเตอร์ของเรา  แล้วเมื่อเราเปิดหน้าเบราเซอร์เพื่อเข้าเว็บไซต์ทั่วและที่ถูกปิด โปรแกรมตัวนี้ก็จะทำงานคู่กันไปโดยจะปกปิดไอพีที่แท้เช่นเดียวกับพร็อกซี่(แต่โปรแกรมเหล่านี้ทำงานซับซ้อนกว่า) โปรแกรมหลบเลี่ยงมีให้เลือกหลายชนิด เช่น Tor ,Torbutton , FoxyProxy  , UltraSurf  , Psiphon , OperaTor(ตัวนี้ไม่ต้องติดตั้งเลยใช้งานตามร้านอินเทอร์เน็ตได้) ดาวน์โหลดโปรแกรมหลีกเลี่ยงฟรีได้ที่ www.mininova.org/tor/752343 หรือค้นหาจากกูเกิ้ลด้วยคำว่า censorship circumvention software , anti-censorship software , anonymous proxy  เป็นต้น  

 

แล้วถ้าอยากหลีกเลี่ยงให้ได้มากกว่านี้ ก็ตามไปเจอกันที่ www.facthai.wordpress.com

 

*เรื่องของแบน บล็อก และความเขิ่ง จากคอลัมน์ ลองD โดย Devil Girls ปาจารยสาร ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๔ มีนาคม-เมษายน ๒๕๕๑